พระหลวงพ่อมหาจิต จิตตวโร
วัดเขาล้อม (ควนจง) ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา
พระหลวงพ่อพระมหาจิต ชาติกำเนิด เป็นลูก คหบดี เศรษฐี ชาวสงขลา
เคยสอบได้ และเรียนแพทย์ จุฬา แต่หยุดเรียน ขณะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
มีการย้ายไปเรียนที่ อยุธยา แต่ท่านเลือกกลับมาทำงานที่สงขลาแทน
ท่านได้อุปสมบท ตามคำร้องขอ ของป้า เพื่อให้บุญแก่โยมบิดามารดา เพียงสัก1 เดือน แต่ท่านบวชแล้วไม่สึกอีกเลย
ในวงการพระกรรมฐาน รับทราบประวัติความเป็นมาของ
หลวงพ่อพระมหาจิต กันดี ท่านบวชเป็นพระบวชที่วัดมัชฌิมาวาส สงขลา เป็นลูกศิษย์ของท่านพ่อลี วัดอโศกการาม โดยหลังจากที่ท่านบวชได้ สามปี
พักอยู่ป่าช้าควนจง นาหม่อม ท่านพ่อลี ได้ธุดงค์ลงมาภาคใต้ และ
รับตัวท่านซึ่งจัดเป็นพระธรรมยุติ บวชใหม่ 3พรรษา
เข้าไป ช่วยงาน ฉลองกึ่งพุทธกาล ที่วัดอโศการาม
จน ปี พ.ศ. จนปี พ.ศ. 2499 หลวงพ่อลีมาจำพรรษาที่วัดควนมีด ตำบลควนมีด ท่านได้ทักทายว่า"ยังไม่ตายทีหรือ"กับหลวงพ่อ ในปี พ.ศ. 2500 ได้มีการบวชพระและเณร 2500 รูป (25 ศตวรรษ) พร้อมด้วยผ้าขาวและอุบาสกอุบาสิกาผู้ถือศีลทั้งหมดหลายร้อยหลายพันคน บวชที่ชายทะเลสมุทรปราการ โบสถ์ 1 บวช 1 โดยเอาเรือทำเป็นอุโบสถน้ำ จนกระทั่งการบรรพชา ได้ลุล่วงไป มีเงินเหลือมากถึง 3-400,000 บาท จึงได้คิดสร้างอุโบสถขึ้นเพื่อเป็นที่ประกอบสังฆกรรมต่างๆ จากนั้นหลวงพ่อทั้งสองก็แยกกัน โดยหลวงพ่อจิตต์ได้กลับได้กลับมาอยู่ที่วัดควนจงหลายพรรษา
จน ปี พ.ศ. จนปี พ.ศ. 2499 หลวงพ่อลีมาจำพรรษาที่วัดควนมีด ตำบลควนมีด ท่านได้ทักทายว่า"ยังไม่ตายทีหรือ"กับหลวงพ่อ ในปี พ.ศ. 2500 ได้มีการบวชพระและเณร 2500 รูป (25 ศตวรรษ) พร้อมด้วยผ้าขาวและอุบาสกอุบาสิกาผู้ถือศีลทั้งหมดหลายร้อยหลายพันคน บวชที่ชายทะเลสมุทรปราการ โบสถ์ 1 บวช 1 โดยเอาเรือทำเป็นอุโบสถน้ำ จนกระทั่งการบรรพชา ได้ลุล่วงไป มีเงินเหลือมากถึง 3-400,000 บาท จึงได้คิดสร้างอุโบสถขึ้นเพื่อเป็นที่ประกอบสังฆกรรมต่างๆ จากนั้นหลวงพ่อทั้งสองก็แยกกัน โดยหลวงพ่อจิตต์ได้กลับได้กลับมาอยู่ที่วัดควนจงหลายพรรษา
จนเมื่อ หลวงพ่อลี ละสังขารไปแล้วในปี
2504 หลวงพ่อพระมหาจิต ท่านได้ภาวนา
อยู่ทางภาคเหนือ กับ ครูบาอาจารย์ สาย
หลวงปู่มั่น เช่น หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ โดยมักพักภาวนา ในเขต อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง
จังหวัดเชียงใหม่
ท่านธุดงค์ไปอยู่ในป่าในเขา
เพื่อเอาความดีเอาชนะความทุกข์ที่ใจเป็นเวลาหลายปี
ต้องการที่จะรู้ทุกข์เห็นทุกข์เห็นความจริงว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์
จะรู้ความจริงนี้ได้ต้อง อาตาปี สัมปชาโณ
คือการทรมานความทุกข์ที่ปิดบังอยู่นั้นให้ออกจากใจ หากจะเอาชนะยอดทุกข์
คือความกลัวตาย ต้องเอาความดีเข้าแลก เอาความดีที่สะสมนี้มาเอาชนะความทุกข์
บางครั้งเพื่อให้เห็นทุกข์ กายที่สบายอยู่นี้ ปิดบังไม่ให้เห็นความกลัวคือไม่สบาย
เมื่อร่างกายได้รับความทรมาน เช่นการไม่กินข้าวหลายวัน เนื้อน้อยลง
จะเดินเหินก็ไม่สะดวก ร่างกายไม่มีอาหารก็เกิดอาการอ่อนเพลีย
เพื่อให้เห็นความจริงที่ว่า ร่างกายนี้เป็นก้อนทุกข์เป็นความจริง
เรียกว่าไล่หลงตรงพุทธก็เลิกกันไป ถึงแม้ว่าร่างกายนี้จะไม่สบาย
ล้มลุกคลุกคลานมีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน ในภาษาพระจะเรียกว่า
มีปิติในธรรมที่เห็นความจริง ซึ่งต้องต่อสู้กันก่อนจิตจึงค่อยรู้ความจริง
จิตเก่าเราสู้ไม่มีถอย ความดีก็ชนะความทุกข์ได้เหมือนกัน ในที่สุดก็ happy
ending คำนี้มิใช่จะเกิดได้กับทุกดวงใจโดยฉับไว
แต่ต้องคอยอำนาจเหตุดี กำลังของเหตุดีสมบูรณ์เมื่อไรจึงจะค่อยพิชิตได้
การต่อสู้ครั้งนี้ต้องมีหลักใจ คือ ไล่หลงตรงพุทธ บริสุทธิ์แน่นปั๋ง
ตราบใดที่กลัวความทุกข์ ความหลงทุกข์ยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป
โดยการไล่หลงที่ความทุกข์ให้ความสำคัญมั่นหมายว่าไม่สบาย
พวกเราได้สร้างความดีมามากน้อย ขอให้ตั้งใจ ตั้งชัยชนะที่ดวงใจ
ก็ละทุกข์สมปรารถนาเทอญ
ท่านไปมา เชียงใหม่ กับ ควนจง (เขตนาหม่อม
จ สงขลา ) ควนมีด
(เขต อ. จะนะ สงขลา )
(เขต อ. จะนะ สงขลา )
มรดกของโยมพ่อโยมแม่ ที่ให้ในส่วนของ
หลวงพ่อมหาจิต ท่านได้นำมาสร้าง อุโบสถ วัดควนจง ขึ้นในระแวก ป่าช้า ควนจง
มีตำนานเล่าเกี่ยวกับ ที่ตั้งปัจจุบัน
ของวัดควนจง
มีผู้ประสงค์จะครอบครองที่วัด เพราะคิดว่า มีแร่ดีบุก (เคยมีราคาสูงในอดีต)
ในเขตที่จะสร้างวัด ได้นำปืนมายิง ขับไล่
หลวงพ่อพระมหาจิต ให้ไปอยู่ที่อื่นเสีย
หลายครา แต่่ทานไม่เคยกลัว และไม่เคยหนี
สุดท้าย ผู้ประสงค์ร้ายใจบาป
โดนเทพยดา เทวดา จัดการ ตายทุกราย
หลวงพ่อมหาจิต ได้ชาวควนจง และศรัทธา
ชาวหาดใหญ่ ร่วมก่อสร้าง อุโบสถ จนสำเร็จ
ในช่วงปี 2510 -2515
ในช่วงประมาณปี พศ. 2525 ศิษย์วัดควนจง ที่เป็นศิษย์หลวงตามหาบัว
วัดป่าบ้านตาด ได้นิมนต์ หลวงตามหาบัว
มาวัดควนจง โดย ทั้งหลวงพ่อมหาจิต และ หลวงมหาบัว
ต่างก็รู้จักกันดีมาตั้งแต่ ปี 2500 ที่ ช่วยงานวัดอโศการาม
การเดินทางของหลวงตามหาบัว มาวัดควนจง มีอุปสรรคสำคัญ คือ
รถยนต์ที่เดินทางมาจากอุดร มีความไม่ปกติ
ตั้งแต่ก่อนเดินทาง แต่ลูกศิษย์ที่เดินทางมาด้วยแปลกใจ สังเกตุสิ่งที่หลวงตาไม่นิยมทำมาก่อน คือ ท่านหลวงตามหาบัว ได้จัดการทำน้ำมนต์
ประพรมที่เครื่องยนต์ ก่อนเดินทางมาหาดใหญ่
เมื่อถึงหาดใหญ่ทันที
ท่านหลวงตามหาบัวแจ้งให้ลูกศฺิษย์หาดใหญ่
รีบนำรถยนต์ไปซ่อม ช่างเครื่องยนต์
สงสัยไม่หายว่า อาการเสียชำรุดมาก วิ่งมาถึงหาดใหญ่ได้อย่างไร
หลวงพ่อมหาจิต ท่านนิยมพักภาวนา ในป่าเขา
จังหวัดสงขลา เชียงใหม่ และ ในช่วงปี
2530-31 ท่านได้รับนิมนต์มาพักที่จังหวัดชุมพร บ้านนากะตาม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
อบรมสมาธิ ภาวนา ให้ผู้ศรัทธา ในพื้นที่
และ มีลูกศิษย์ จากหาดใหญ่ และ กรุงเทพ
ตามไปให้ท่าน สอนภาวนา กรรมฐาน เป็นระยะ
แต่ท่านอยู่เพียงปีเดียว เท่านั้น ก็กลับๆไปพักภาวนา ที่สวนยาง และ บนเขา
ที่ บ้านโต้นนท์ ตำบลคลองทราย อำเภอนาทวี
ซึ่งท่านบอกลูกศิษย์ว่า เขตแดนนั้น มีกระแส บารมีของหลวงปู่ทวด
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/566986